เบลเยียมคว้าอันดับสามในฟุตบอลโลกปี 2018 และผู้เล่นดาวเด่นอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู, เอแด็ง อาซาร์, ดรีส เมอร์เท่นส์ และ อั๊กเซิล วิตเซล ได้รับการยกย่องว่าเป็น “Golden Generation” ของเบลเยียม
จึงเป็นทีมชาติอันดับหนึ่งของฟีฟ่าในปัจจุบัน หลังจากการแข่งรอบคัดเลือกอันน่าทึ่งซึ่งชนะการแข่งขันทั้งหมด 10 นัด เบลเยียมถูกตั้งราคาให้เป็นเต็งที่จะชนะเกมนัดแรกกับรัสเซีย แม้ว่าจะจัดที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็ตาม
ทีมของโค้ชโรแบร์โต้ มาร์ติเนซเอาชนะโครเอเชีย 1-0 ที่บ้านในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากเสมอกับกรีซ 1-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว การแข่งขันนัดสุดท้ายของเบลเยียมยังสร้างบ้านถล่มเบลารุส 8-0 ในฟุตบอลโลก นอกจากนี้ เบลเยียมยังผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในการแข่งขันยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และจะพบกับฝรั่งเศสในเดือนตุลาคม
แพ้เพียงครั้งเดียวใน 22 เกม เบลเยียมน่าจะชนะกลุ่มบี ได้โดยไม่มีปัญหามากนัก
เดนมาร์กได้เปรียบเมื่อจะได้เล่นเกมในบ้าน แข้งเดนมาร์กเข้าสู่การแข่งขันด้วยฟอร์มที่ดีหลังจากชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกทั้งสามนัดแรกในฤดูใบไม้ผลิ มีแนวโน้มที่จะต่อสู้กับรัสเซียในอันดับที่สอง ทีมมีข้อได้เปรียบอย่างมากจากการแข่งขันกลุ่ม B ทั้งสามรายการในโคเปนเฮเกน
ทีมไม่มีชื่อดารามากเท่ากับเบลเยี่ยม อย่างไรก็ตาม คริสเตียน อีริคเซ่น เพลย์เมกเกอร์ของอินเตอร์ มิลาน ยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก รายชื่อผู้เล่นตัวจริงยังมี แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารจากเลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ และอันเดรียส คริสเตนเซ่น กองหลังแชมป์เปียนส์ลีกของเชลซี